รีวิว flip 4

หัวข้อแนะนำ

รีวิว flip 4 สมาร์ทโฟนพับได้รุ่นล่าสุดที่ผสมผสานนวัตกรรมล้ำสมัยเข้ากับแฟชั่นมีสไตล์ ลงตัวทุกการใช้งาน เริ่มจากจอแสดงผลมาตรฐาน Dynamic AMOLED 2X พร้อมฟังก์ชั่นเหนือชั้นกว่าที่เคย ขับเคลื่อนด้วย Qualcomm Snapdragon 8+ Gen 1 รองรับสัญญาณ 5G เชื่อมต่อรวดเร็ว กล้องหลังคู่ 12MP พร้อมฟังก์ชั่น FLEX มอบประสบการณ์การใช้กล้องแบบใหม่ แบตเตอรี่ทนทาน ชาร์จเร็ว ดีไซน์บางเฉียบ

 

รีวิว flip 4 รูปลักษณ์ภายนอก

รีวิว flip 4 เมื่อกางหน้าจอออก Samsung Galaxy Z Flip 4 มีขนาด 165.2 x 71.9 x 6.9 มม. และเมื่อพับจะมีขนาด 84.9 x 71.9 x 15.9-17.1 มม. น้ำหนักอยู่ที่ 187 กรัม แกนพับทำจากวัสดุอะลูมิเนียมที่มีความเงางามแตกต่างจากรุ่นก่อนและสลักคำว่า Samsung ไว้เช่นเดิม หน้าจอด้านในเป็นส่วนของหน้าจอพับ ใช้แผง Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด 2640 ×1080 พิกเซล อัตราการรีเฟรชสูงสุด 120 Hz เคลือบด้วยกระจก Gorilla Victus และใช้รูเจาะหรือ Infinity Display Design -O. รอยบากมีกล้องหน้า 10MP และขอบด้านบนของจอแสดงผลมีลำโพงเสียง ด้านล่างหน้าจอเป็นระบบซอฟต์แวร์นำทาง ด้านซ้ายของตัวเครื่อง ด้านขวาของตัวเครื่องจะมีช่องใส่นาโนซิมการ์ด 1 ช่อง มีปุ่มฟังก์ชันมาตรฐาน ปุ่มยาวคือปุ่มเพิ่มลดเสียง ปุ่มที่เล็กที่สุดคือปุ่มเปิดปิดซึ่งมีเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือด้วย ด้านบนตัวเครื่องมีรูไมโครโฟนเพียง 1 รู และด้านล่างมีรูไมโครโฟน 2 รูทางด้านซ้าย ตรงกลางเป็นพอร์ต USB Type-C และด้านขวาเป็นลำโพงเสียง พลิกกลับมาที่ด้านหลังเครื่องหรืออาจเรียกว่าฝาหน้า สำหรับกล้องหลังนั้นวางในแนวตั้งพร้อมเลนส์ 2 ตัว เลนส์มุมกว้าง 12MP และเลนส์มุมกว้างพิเศษ 12MP พร้อมแฟลชด้านล่างกล้อง ถัดจากด้านขวาของกล้องคือหน้าจออื่นซึ่งเป็นหน้าจอภายนอก ซึ่งสามารถใช้งานวิดเจ็ตและแสดงการแจ้งเตือนการเปิดใช้งานด่วน และยังใช้เป็นหน้าจอเซลฟี่ด้วยกล้องหลังได้อีกด้วย หน้าจอนี้เป็นแผง Super AMOLED ขนาด 1.9 นิ้ว ความละเอียด 512×260 พิกเซล

 

สเปคพื้นฐานของ Samsung Galaxy Z Flip 4

ขนาดเครื่อง:
– (เมื่อปิด) 84.9 x 71.9 x 15.9-17.1 มม.
– (เปิด) 165.2 x 71.9 x 6.9 มม
น้ำหนัก : 187 กรัม
หน้าจอแสดงผล:
– ภายนอก Super AMOLED กว้าง 1.9 นิ้ว ความละเอียด 512×260 พิกเซล
– ภายใน Dynamic AMOLED 2X กว้าง 6.7 นิ้ว ความละเอียด 2640×1080 พิกเซล
ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 8+ Gen 1 ขนาด 4 นาโนเมตร
แรม: 8GB
รอม: 128GB
ระบบปฏิบัติการ: One UI 3.1 ที่ใช้ Android 12
กล้องหลัง2ตัว
– เลนส์ Wide ความละเอียด 12MP
– เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 12MP
กล้องหน้า : ความละเอียด 10MP
เครือข่าย: 5G รองรับ 1 Nano SIM และสล็อต eSIM
การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 2.4/5GHz, Bluetooth 5.1, GPS, NFC, พอร์ต USB Type-C
มาตรฐานกันน้ำ: IPX8
ระบบเสียง: ลำโพงสเตอริโอ รองรับ Dolby Atmos
ระบบความปลอดภัย: สแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่อง, สแกนใบหน้า
แบตเตอรี่: 3,700 mAh รองรับการชาร์จเร็วแบบมีสาย 25W และไร้สาย 15W

 

เมนู & ฟังก์ชัน

ชิปเซ็ตและหน่วยความจำ

Samsung Galaxy Z Flip 4 ใช้โปรเซสเซอร์ Qualcomm Snapdragon 8+ Gen 1 ซึ่งเป็นกระบวนการประสิทธิภาพสูงขนาด 4 นาโนเมตรที่รองรับการเชื่อมต่อ 5G ในรุ่นนี้จะมีตัวเลือก RAM และ ROM เพียงตัวเดียว คือ RAM 8GB และ ROM 512GB การ์ด MicroSD ได้ เมื่อเปิดเครื่องครั้งแรกจะใช้พื้นที่ประมาณ 24 GB โดยไม่ต้องติดตั้งแอพพลิเคชั่นแนะนำ

ระบบปฏิบัติการ

ระบบปฏิบัติการทำงานบน One UI 4.1.1 ที่ใช้ Android 12 ซึ่งได้รับการปรับแต่งให้ตอบสนองได้ดีขึ้น จอแสดงผลภายนอกมีฟังก์ชันที่หลากหลาย และการใช้งานโดยรวมลื่นไหลดี

หน้าจอหลัก

สำหรับหน้าจอหลักนั้นสวยงาม หรูหราตามแบบฉบับของ Samsung Galaxy สวยงามและคลาสสิค เน้นการใช้งานง่าย สามารถปรับแต่ง widget และเปลี่ยนวอลเปเปอร์ได้ตามต้องการ

โหมดหน้าจอ

สำหรับโหมดหน้าจอของ Samsung Galaxy Z Flip 4 คุณสามารถเลือกได้ 2 โหมด ได้แก่ “Vivid” ซึ่งจะทำให้สีสดใสขึ้น และ “Natural” ซึ่งลดความสว่างของหน้าจอลงเป็นโทนสีอุ่นขึ้น รวมถึงสีที่ซีดจางลงไปด้วย แต่ถ้าใครอยากปรับแต่งเพิ่มเติมก็มีเวอร์ชัน Manual ให้คุณปรับแต่งได้

โหมดมืด

โหมดมืดเปลี่ยนธีมเป็นสีดำ และใช้ตัวหนังสือสีขาว ช่วยให้ใช้งานหน้าจอในที่แสงน้อยได้สบายตา และช่วยประหยัดแบตเตอรี่ด้วยตัวมันเอง คุณสามารถเข้าถึงโหมดมืดได้จากการตั้งค่า > จอแสดงผล > โหมดมืด คุณยังสามารถตั้งเวลาเปิดใช้งานได้ตามความต้องการของคุณ

 

จุดเด่นน่าสนใจ

เบาสวยสะกดทุกสายตา
Samsung Galaxy Z Flip 4 มีสัมผัสที่บางเบา ตัวเครื่องมีขนาดกะทัดรัด และขนาดกำลังพอดีเมื่อใส่กระเป๋ากางเกง น้ำหนัก 187 กรัม มี 2 ผิวให้เลือก ได้แก่ ผิวกระจกสีดำตรงข้ามฝาหลังโลหะเงา มี 4 สีหลักให้เลือก ได้แก่ สีม่วงโบรา สีม่วงกราไฟท์ , The Z Flip 4 สีชมพู โกลด์และบลูยังเปิดตัว Galaxy Z Flip4 Bespoke รุ่นพิเศษที่สามารถออกแบบและเสริมบุคลิกของคุณได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยชุดสีที่ปรับแต่งได้ ทั้งกระจกและกรอบสามารถมิกซ์แอนด์แมทช์ได้ถึง 75 แบบ

ทนต่อน้ำและหยด

วัสดุที่ใช้ใน Samsung Galaxy Z Flip 4 มีคุณภาพสูง หน้าจอด้านในเปิดอย่างสวยงามด้วยกระจกบางเฉียบที่ทนทานต่อการพับ 200,000 ครั้ง บานพับเป็น Armor Aluminium ซึ่งเป็นโครงอะลูมิเนียมที่แข็งแรงทนทาน และยังมีระดับกันน้ำ IPX8 สามารถจมอยู่ในน้ำลึก 1.5 เมตรได้นานถึง 30 นาทีโดยไม่มีปัญหาใดๆ

หน้าจอพับไดนามิก AMOLED 2X

สำหรับจอแสดงผลภายในมี Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.7 นิ้วที่สามารถพับได้ เมื่อคลี่ออกจะให้รูปลักษณ์ที่สวยงาม สีสดและเข้มข้นมาก เมื่อพับแล้วจะสัมผัสได้ถึงคลื่น แต่ถ้าไม่ระวังจะดูเนียนกลืนเป็นเส้นเดียวกัน มีอัตราส่วนภาพที่คุ้นเคยมากกว่า 22:9 รองรับอัตราการรีเฟรชสูงสุด 120 Hz ซึ่งสามารถปรับได้โดยอัตโนมัติตามการใช้งาน ทำให้หน้าจอลื่นไหลไม่มีสะดุด ยังช่วยประหยัดพลังงานอีกด้วย รับชมคอนเทนต์ต่าง ๆ สด ๆ ชัด ๆ ทุกรอบโดยไม่ปวดตา

จอแสดงผลภายนอกที่ปรับแต่งได้

หน้าจอภายนอกบนหน้าปกของ Samsung Galaxy Z Flip 4 เป็นแผง Super AMOLED ขนาด 1.9 นิ้ว ความละเอียด 512×260 พิกเซล ที่สามารถแสดงการแจ้งเตือนต่างๆ นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกการปรับแต่งเพิ่มเติมทั้งในส่วนนาฬิกาและการปัดไปทางซ้ายและขวาเพื่อใช้วิดเจ็ตหรือ Quick Widgets โดยไม่ต้องคลี่หน้าจอออก นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นหน้าจอ เพื่อดูเฟรมและเมื่อถ่ายภาพจากกล้อง

แบตเตอรี่

Samsung Galaxy Z Flip 4 มีแบตเตอรี่ขนาด 3,700 mAh โปรเซสเซอร์ Qualcomm Snapdragon 8+ Gen 1 ซึ่งใช้กระบวนการ 4 นาโนเมตรและปัญญาประดิษฐ์อัจฉริยะ จึงปรับปรุงการจัดการพลังงานให้เหมาะสมกับการใช้งานในระยะยาว รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว Super Fast Charging 25W ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงในการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง

กล้อง

สำหรับกล้องของ Samsung Galaxy Z Flip 4 ยังคงเป็นกล้องหลังคู่ ซึ่งเป็นกล้องหลัก 12MP พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS และกล้องมุมกว้างพิเศษ 12MP ถัดจากจอแสดงผลภายนอก ซึ่งคุณสามารถดูรูปภาพเพื่อถ่ายเซลฟี่ได้จากกล้องหลัง

 

คุณสมบัติพิเศษ หูฟัง และ flip 4

กล้อง

สำหรับกล้องของ Samsung Galaxy Z Flip 4 ยังคงเป็นกล้องหลังคู่ ซึ่งเป็นกล้องหลัก 12MP พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS และกล้องอัลตร้าไวด์ 12MP ถัดจากจอแสดงผลภายนอก ที่คุณสามารถดูภาพเพื่อถ่ายเซลฟี่ได้จากกล้องหลัง และยังมีกล้องหน้า 10MP ไว้ถ่ายเซลฟี่สวยๆ อีกด้วย

กล้องเฟล็กซ์

กล้องยังมีคุณสมบัติ Flex Camera ทำให้การถ่ายภาพแบบแฮนด์ฟรีสะดวกยิ่งขึ้น พับหน้าจอเพื่อวางอุปกรณ์ สำหรับการถ่ายภาพหมู่ เซลฟี่ และวิดีโอ คุณสมบัติ Flex Camera น่าจะสมบูรณ์แบบสำหรับ vloggers และผู้สร้างเนื้อหาที่บางครั้งไม่สามารถหรือไม่มีขาตั้งกล้องช่วย เพียงตั้งกล้องและถ่ายเซลฟี่โดยไม่ต้องสัมผัสกล้อง

กล้องเฟล็กซ์

บางครั้งความละเอียดของกล้องหน้าอาจไม่ตรงกับความคมชัดของภาพที่เราต้องการ แต่ QUICK SHOT ที่มีใน Samsung Galaxy Z Flip 4 ทำให้เราถ่ายเซลฟี่ด้วยกล้องหลังได้ และสามารถดูการใช้เฟรมผ่านจอภาพภายนอกได้ ควบคุมตัวเองจากระยะไกล เต็มหน้าจอหรือเต็มตัวด้วยการแตะหน้าจอเพื่อดูในอัตราส่วนภาพต่างๆ QUICK SHOT ช่วยให้คุณเห็นเฟรมเมื่อกางหรือพับอุปกรณ์

หูฟัง Samsung Galaxy Buds 2 Pro

และนอกจากสมาร์ทโฟนพับได้แล้ว Samsung ยังเพิ่มหูฟัง Samsung Galaxy Buds2 Pro ซึ่งเป็นหูฟังรุ่นใหม่ที่มีการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ที่ดี หูฟัง Samsung Galaxy Buds2 Pro พร้อมที่จะมอบประสบการณ์เสียงที่ยอดเยี่ยม หูฟังไร้สาย TWS ขนาดกะทัดรัด หูแต่ละข้างหนัก 5.5 กรัม เล็กลง 15% พกพาสะดวกตามหลักสรีรศาสตร์ เพื่อความกระชับ แต่สวมใส่สบาย ไม่หลุดง่าย ออกแบบมาเพื่อป้องกันการหมุน ทั้งหูฟังและเคสมีโทนสีเดียวกัน มาพร้อมกับผิวด้านที่สวยงาม มี 3 สีให้เลือก ได้แก่ Bora Purple, Graphite และ White
การเชื่อมต่อ

ซัมซุง กาแลคซี่ บัดส์ 2 โปร

สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทดีไวซ์ผ่าน Bluetooth 5.3 และสมาร์ทโฟน Samsung รุ่นอื่นๆ เพื่อการจับคู่อุปกรณ์ที่ง่ายขึ้น เพียงเปิดเคสแล้วกดที่หูฟัง หน้าต่างป๊อปอัปจะปรากฏขึ้นบนหน้าจอเพื่อเริ่มการเชื่อมต่อทันที สะดวกสบายมาก นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติสลับอัตโนมัติซึ่งจะสลับอุปกรณ์ที่จับคู่โดยอัตโนมัติเมื่อคุณเชื่อมต่อกับทีวี Samsung และมีสายเข้า Galaxy Buds2 Pro สลับการเชื่อมต่อของคุณไปยังสมาร์ทโฟนทันที เพื่อให้คุณสามารถรับสายและพูดคุย โดยไม่ต้องถอดหูฟังหรือเชื่อมต่อใหม่

เสียงไฮไฟ 24 บิตอันทรงพลัง

Samsung Galaxy Buds2 Pro มาพร้อมเทคโนโลยี 24-bit Hi-Fi พร้อมไดรเวอร์คู่สองทิศทางแบบโคแอกเซียล (ทวีตเตอร์ + วูฟเฟอร์) ที่ออกมาคมชัดทุกมิติ เมื่อรวมกับเสียง Hi-Fi 24 บิต จึงให้เสียงที่แม่นยำในทุกโทนเสียง ไม่ว่าจะเป็นเสียงที่นุ่มนวลหรือความกลมกลืนที่สวยงาม นอกจากนี้ยังมีโหมดเสียง 360 พร้อม Dolby Atmos ที่ให้เสียงรอบทิศทางที่ลึกและชัดเจน ช่วยให้ผู้คนเพลิดเพลินไปกับเสียงที่สมจริงยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น คอนเสิร์ตบน YouTube เปรียบเสมือนการแสดงคอนเสิร์ตสดท่ามกลางฝูงชนจริงๆ ด้วยเทคโนโลยี Dolby Head Tracking ที่จะตรวจจับการเคลื่อนไหวของศีรษะของเราอย่างชาญฉลาด และทำให้เสียงเป็นจริง
ANC (ระบบตัดเสียงรบกวนแบบแอคทีฟ)

เพื่อให้ระบบ ANC (ACTIVE NOISE CANCELING) ดียิ่งขึ้นใน Samsung Galaxy Buds2 Pro ทำงานได้ดีกว่าระบบเดียวกันในหูฟังรุ่นก่อนหน้าถึง 40% และไม่ใช่แค่การตัดเสียงรบกวนที่เงียบกว่าเท่านั้น แต่ก็ยังมีอีกหลายทางให้เลือก ให้เข้ากับสภาพแวดล้อม มีฟังก์ชั่นตรวจจับสัญญาณรบกวนที่จะปิด ANC และเปิดให้มีเสียงรบกวนรอบข้าง เพื่อช่วยให้คุณได้ยินการสนทนาอย่างชัดเจนโดยไม่ต้องถอด Galaxy Buds2 Pro และกลับสู่โหมด ANC โดยอัตโนมัติ ซึ่งต้องตั้งค่าให้ทำงานก่อน

แบตเตอรี่

รีวิว flip 4 Samsung Galaxy Buds2 Pro สามารถเล่นเพลงได้นานถึง 5 ชั่วโมงต่อเนื่องและใช้งานได้ถึง 18 ชั่วโมงด้วยเคสชาร์จ รองรับการชาร์จเร็ว ชาร์จเพียง 5 นาที ฟังเพลงได้นานถึง 1 ชั่วโมง จากการทดสอบ ฟังเพลง ดูคลิปต่อเนื่อง 1 ชั่วโมง แบตเตอรี่ลดลงประมาณ 10% จากการชาร์จเต็ม และใช้งานได้ทั้งวันขณะชาร์จจากเคส

 

บทความแนะนำ