รีวิว Samsung Galaxy S23 Ultra

หัวข้อแนะนำ

รีวิว Samsung Galaxy S23 Ultra หลังจากที่ หนุ่ย-ปองสุข ได้มีโอกาสไปดูงาน Galaxy Unpacked ที่ซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา หนุ่ยได้มีโอกาสใช้ Samsung Galaxy S23 Ultra ก่อนที่งานเปิดตัวจะเริ่มขึ้น และขอทิ้งช่วงงานเปิดตัวไว้สักระยะ หากต้องการดูความรู้สึกที่แท้จริงของการจัดการเรือธงรุ่นใหม่นี้พร้อมข้อมูลเชิงลึกจากกองบรรณาธิการ เรามาดูกัน โทรศัพท์ android

 

 

ดีไซน์ รีวิว Samsung Galaxy S23 Ultra

รีวิว Samsung Galaxy S23 Ultra หลายคนที่เห็นคลิปจากงานเปิดตัวที่ซานฟรานซิสโกคงแปลกใจว่าดีไซน์ของ S22 Ultra และ S23 Ultra นั้นเหมือนกันจนแทบดูต่างกัน แต่จริงๆ แล้วกลับแตกต่างในหลายๆ คน ฉันไม่รู้.! อย่างไรก็ตาม ตามการออกแบบภายนอก ดูคลิปเปิดตัว เพื่อทำให้ขอบด้านข้างเป็นเหลี่ยมมากขึ้นซึ่งแต่ละคนถือต่างกันด้วยขอบกล้องหลังที่ใหญ่ขึ้น ที่เหลือ แทบจะเหมือนกับ S22 Ultra เลย บางทีตำแหน่งไมโครโฟนเปลี่ยนไปนิดหน่อย แต่เชื่อเถอะ เราจะไม่รู้สึกว่า มัน. อย่างไรก็ตามน้ำหนักของอุปกรณ์ไม่พอดีกับเคสรุ่นใหม่นี้หนักขึ้น 4 กรัม!

วัสดุที่ใช้เป็น Armor Aluminium ซึ่งค่อนข้างแข็งแรง กระจกหน้าและหลังใช้กระจก Gorilla Glass Victus 2 ซึ่งมีความทนทานกว่า และกระบวนการผลิตเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยใช้ส่วนประกอบที่รีไซเคิลได้มากขึ้น (ด้วยวัสดุรีไซเคิลจากโรงงาน) ที่รีไซเคิลทุกอย่างตั้งแต่กระจกด้านหน้าและด้านหลังไปจนถึงด้านในของ S-Pen

ส่วนเรื่องสีของตัวเครื่อง ก็ได้มีความ ‘รักโลก’ ผสมเข้าไปอยู่ในตัวสีเพิ่มขึ้นจากเดิมด้วย ถ้าเทียบกันระหว่างสีเขียวเดิมใน S22 Ultra กับ S23 Ultra ก็ถือว่าดูมีความรักโลกมากขึ้นจริง ๆ แต่โดยรวมก็ถือว่าคล้ายเดิมมากจริง ๆ แต่สิ่งที่ไม่คล้ายแน่ ๆ คือประสิทธิภาพของตัวเครื่องที่อยู่ภายใน !

 

 

กล้องถ่ายภาพ

โทรศัพท์ rog โดยเลนส์ถ่ายภาพของ Samsung Galaxy S23 Ultra นั้นจะประกอบไปด้วย

  • กล้องถ่ายภาพมุมกว้างมาก (Ultra Wide Camera) ขนาด 12 ล้านพิกเซล f/2.2
  • กล้องถ่ายภาพหลัก (Main Camera) ขนาด 200 ล้านพิกเซล f/1.7
  • กล้องถ่ายภาพซูม (Telephoto Zoom Camera) 3x ขนาด 10 ล้านพิกเซล f/2.4
  • กล้องถ่ายภาพซูม (Periscope Zoom Camera) 10x ขนาด 10 ล้านพิกเซล f/4.9
  • Laser Autofocus อันนี้ไม่ใช่กล้องนะ เป็นตัวช่วยโฟกัสเฉย ๆ !

ต้องบอกตรง ๆ ว่าการเข้ามาของกล้องความละเอียด 200 ล้านพิกเซล ที่มาพร้อมเทคนิค 16 ยวบเป็น 1 ที่เรียกว่า ‘Adaptive Pixel’ ไฟล์ภาพที่ถ่ายออกมา แม้จะเหลือความละเอียด 12 ล้านพิกเซลเท่าเดิม แต่สี และพิกเซลภายในที่เก็บรายละเอียดได้ดีขึ้น ทำให้ภาพที่ออกมาดูคมชัดขึ้นกว่าเก่าได้ ก่อนที่จะได้ทำรีวิวจริงจัง Beartai เคยทำคลิปที่ถ่ายทำด้วย Samsung Galaxy S23 Ultra ล้วน ๆ มาแล้ว ผลตอบรับออกมาน่าสนใจมาก ๆ เพราะมีแต่คนคอมเมนต์ว่าภาพออกมาดีจริง ๆ ตอนที่คุณหนุ่ย-พงศ์สุข ได้เดินทางไปซานฟรานซิสโก เขาก็ได้พบกับ ‘นักสร้างกล้อง’ ของซัมซุง ที่ชื่อ Dr. Sungdae Joshua Cho (ด็อกเตอร์ซังแด โจชัว โช) เขาเป็นนักพัฒนาซอฟต์แวร์ของกล้องถ่ายภาพในสมาร์ตโฟนของซัมซุง ซึ่งเห็นได้เลยว่าทางซัมซุงให้ความจริงจังกับการทำซอฟต์แวร์ของกล้องถ่ายภาพนี้มากขนาดไหน โดยเฉพาะเรื่องของการกันสั่น ที่ในรุ่นนี้ได้เปลี่ยนจากเดิมที่ใช้ 1.5° ใน S22 Ultra กลายมาเป็น 3° ใน S23 Ultra แทน ซึ่งมีส่วนสำคัญทั้งการถ่ายภาพนิ่งและการถ่ายวิดีโอเลย

ส่วนภาพถ่ายที่ทำได้นั้น ถือว่าทำได้ดี สีของภาพนั้นมีความแตกต่างจากการถ่ายด้วย Samsung Galaxy S22 Ultra แบบเดิม โดยเฉพาะเรื่องของอุณหภูมิสี ที่ได้มีการปรับอยู่พอสมควร สีของภาพใน S23 Ultra จะไม่อมฟ้าเท่า สีออกไปทางอุ่นขึ้น ซึ่งจากการสอบถามหลาย ๆ คนมา เทียบภาพข้าง ๆ กันไปเลย ก็พบว่าได้ผลผสมกัน ! มีทั้งคนที่บอกว่าภาพรุ่นเก่าสีดีกว่า รุ่นใหม่สมจริงกว่า ซึ่งสุดท้ายอยู่ที่ความชอบของแต่ละคนอยู่ดี

อย่างไรก็ตาม ความละเอียดของภาพจะดีขึ้นจริง ๆ เมื่อเราปรับขนาดขึ้น ภาพจะเก็บรายละเอียดได้ดีกว่าเวอร์ชั่นก่อนอย่างแน่นอน เลนส์มุมกว้างของทั้ง S23 Ultra และ S22 Ultra สามารถถ่ายภาพได้มากถึง 0.6 เท่า แต่สีของภาพของ S23 Ultra จะเป็นสีน้ำเงินน้อยกว่า ซึ่งเมื่อเทียบกับ iPhone 14 Pro สีจะสว่างกว่านิดหน่อย ไม่สดเท่า เมื่อซูมภาพจะเห็นว่าภาพไม่แตกโดยยังคงรายละเอียดของกล้องหลักไว้

แต่แน่นอนว่าตอนนี้ถ้าพูดถึงเรือธงของ Samsung ก็ต้องเป็นเรื่องของ Scaling เพราะปีนี้ Samsung Copy Writer ในไทยใช้คำว่า Supreme Peak บนหน้าเว็บไซต์นั่นเอง ภาพไหนใหญ่สุดจริง ๆ แม้ว่าเลนส์อื่น ๆ จะยังเท่าเดิม แต่เรื่องนี้เลนส์หลัก 200 ล้านพิกเซลของมันเล่นจริง ๆ รุ่นนี้ยังซูมได้ลึกสุดกว่ารุ่นก่อน ๆ ถึง 100 เท่า คุณผู้ชมลองดูครับ รูปนี้ รูปนี้ขยาย 30 เท่า! นั่นคือถ้าเราไม่ขยายภาพทั้งหมด ภาพ 30x ก็ยังใช้งานได้จริง

 

 

การถ่ายวิดีโอ

ส่วนวิดีโอสามารถถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุด 8K 30 FPS แต่การถ่ายที่ 4K 60 FPS จะได้ภาพที่ออกมาดีกว่า ซึ่งปีนี้ Samsung ก็ทำได้ค่อนข้างดี ระบบป้องกันภาพสั่นไหว 2 เท่าทำให้การบันทึกวิดีโอดีขึ้นมาก ผมอยากให้คุณดูส่วนนี้ของวิดีโอผ่านคลิปตัวอย่าง อัปโหลดวิดีโอกับ Samsung Galaxy S23 Ultra และวิดีโอเปรียบเทียบกับรุ่นอื่นๆ! โทรศัพท์ samsung รุ่นใหม่ล่าสุด

ทีนี้ในโหมด Super Steady เอง ก็ได้พัฒนาเหมือนกัน คือถ้าลองเทียบภาพระหว่าง S22 Ultra กับ S23 Ultra จะเห็นเลยว่าภาพนิ่งมาก ลื่นไหลยังกะใส่ Gimball ยังไงยังงั้น และใน S23 Ultra สามารถถ่ายวิดีโอ Super Steady ในความละเอียด QHD (1440P) ได้แล้วด้วย ภาพที่เห็นในคลิปด้านบนนี้คือ 1440P นะ คมๆ นิ่ง ๆ เลย

พองานวิดีโอกลางวันใช้งานได้ วิดีโอกลางคืนก็ใช้งานได้เลยเช่นเดียวกันครับ มีการคำนวณแสงต่าง ๆ ในเวลากลางคืนได้ดี ไม่เกิด Noise รวมถึงภาพก็ยังลื่นไหลได้ดีอยู่เช่นเดียวกัน ต้องบอกว่ากันสั่นที่เพิ่มขึ้นมาเป็น 2 เท่าที่เขาบอกมา ได้ใช้ประโยชน์มากจริง ๆ

 

 

กล้องหน้า

รีวิว Samsung Galaxy S23 Ultra  อีกเรื่องที่ต้องบ่นคือความละเอียดของกล้องหน้า S22 Ultra มีกล้อง 40MP ในขณะที่ S23 Ultra มี 12MP เท่านั้น ในเรื่องนี้ต้องบอกว่า “ล้านพิกเซล” ไม่ใช่ทุกอย่าง แม้จะดูเหมือนความละเอียดลดลงแต่มีเซ็นเซอร์ที่ดีขึ้น โดยเฉพาะจากคลิปทดสอบที่ Parnas Saruts ไปทดสอบกล้องหน้า สรุปได้ว่ากล้องหน้าของมันจับรายละเอียดได้ดีขึ้นด้วยรูรับแสง f2.2 และพิกเซลคู่!

ส่องภาพ เมย์ สิตพร สีสันของภาพก็ดีขึ้นด้วย! ในเรื่องนี้ Samsung ใช้เครื่องมือการรับรู้วัตถุ AI ที่ใช้ AI เพื่อตรวจจับฉัน หรือเสื้อผ้าจะหลุดออกจากพื้นหลัง รวมถึงเพิ่มรายละเอียดของรุ่นลงในกล้องหน้า แม้ว่าคุณภาพจะไม่ดีเท่ากล้องหลัง แต่ใช้งานได้จริง หากเทียบภาพบน iPhone สีบน iPhone จะดูแตกต่างกัน ซึ่งจะขึ้นอยู่กับแต่ละคนว่าชอบภาพไหน

 

 

บทความแนะนำ